ปีที่ ๔ – บทที่ ๒

วัดร้างกลางป่า

ป่ายวันหนึ่ง วีระ มานะ มานี ชูใจ และปิติขออนุญาตผู้ใหญ่ไปเที่ยวชายทุ่งbase of a mountain, hillเชิงเขาที่เคยไปที่เสมอ เพชรขอตามไปด้วย เขาคิดว่าบางทีจะมีโอกาสหาปลาไปให้แม่ทำอาหาร เขาเป็นนักhurl a harpoon, spearพุ่งฉมวกมือฉมัง จึงถือฉมวกและhandheld fishnetสวิงติดมือไปด้วย พอมานีเห็นเขาก็sad facedหน้าสลด เพราะไม่อยากให้ใครฆ่าสัตว์ วีระล้อว่ามานีเป็นconservationistนักอนุรักษ์ธรรมชาติ ส่วนเพชรรู้สึกto doubt, be uncertainฉงนที่เห็นมานีไม่อยากให้ใครฆ่าสัตว์ เขาคิดว่าบางครั้งคนเราก็จำเป็นต้องฆ่าสัตว์เพื่อearn a living, feed oneselfเลี้ยงชีวิตของตน แต่เพชรอยากtry to pleaseเอาใจมานีจึงสัญญาว่าจะไม่ฆ่าสัตร์ และขอสมัครเป็นfollower, one under another’s controlลูกสมุนของมานี

พอมาถึงjungle preserve, conservation areaป่าสงวนมีต้นไม้สูงtall prominent groupสล้างraise upชูยอดprominent in great numbersสลอนverdantเขียวชอุ่มน่าดูมาก ข้างล่างมีbushesไม้พุ่มออกดอกraise up in profusionไสว ส่งกลิ่นfull of fragranceหอมตลบ ผีเสื้อหลายตัวบินfly around in circlesฉวัดเฉวียนไปมา เสียงcicada จัก-กะ-จั่นจักจั่นร้องharmonizeประสานกันresound, reverberateดังก้องป่า พอพวกเด็กๆ เดินมาเป็นขบวน ส่งเสียงคุยก้นloudly chatteringจ้อกแจ้ก จักจั่นก็หยุดร้องทำให้ป่าquiet, tranquilเงียบสงัด ได้ยินแต่เสียงใบไม้shake, rustleไหวเพราะแรงลม ชูใจเก็บดอกไม้ที่หล่นอยู่ใต้ต้นมาเสียบผมเล่น ปิติกับมานะไล่intercept, head offสกัดจับกิ้งก่าอย่างสนุกสนาน แต่จับมันไม่ทันสักที ส่วนมานีเดินto flank, press on both sidesขนาบมาข้างเพชรเพราะเกรงว่าเพชรจะเผลอใช้ฉมวก เด็กๆ พากันเล่นสนุกหลายอย่าง บางครั้งก็draw strawsจับฉลากไม้สั้นไม้ยาวหาคนcommence, startขึ้นต้นa word gameเล่นต่อคำ

สักครุ่ เพชรก็เสนอความคิดเห็นขึ้นว่า ควรจะไปเที่ยวที่วัดร้าง เพราะมีอะไรๆ น่าสนใจมากและอยู่ไม่ไกลนัก เขาเคยไปที่สถานที่แห่งนั้นกับพ่อครั้งหนึ่ง เมื่อพ่อของเขาไปจับไก่ป่า ทุกคนก็เห็นดีด้วยและตกลงจะไปเที่ยววัดร้าง เพื่อจะได้ผจญภัยเล็กๆ น้อยๆ บ้าง

เพชรพาgroup, partyคณะเดินcut out fromตัดออกจากเขตป่าสงวน ไม่ช้าก็มาถึงวัดร้าง เด็กๆ มองเห็นเจดีย์ใหญ่in ruinsปรักหักพัง มีเศษอิฐกองgigantic, huge มะ-หึ-มามหึมาอยู่ตรงฐานเจดีย์ liana, vineเถาวัลย์ขึ้นcover-overคลุมจนดูspreading like brambles + long strandsรกรุงรังไปหมด แต่ก็พอมองเห็นlinear patterns, designsลวดลายที่สcarved intricatelyลักเสลาไว้อย่างbeautifulงดงาม พวกเด็กๆ พากันเดินดูไปรอบๆ ปิติบ่นว่า ไม่มีพระพุทธรูป มีแต่รูปปั้นเป็นรูปยักษ์ที่เก่าแก่และชำรุด หน้าของรูปปั้นของยักษ์glowering, fierce ถะ-หฺมึง-ทึงถมึงทึงน่ากลัวมาก ชูใจเป็นคนfaint of heart, easily frightenedขวัญอ่อน เห็นแล้วกลัวจนต้องseize, cling toยึดแขนมานีไว้ good luckเคราะห์ดีที่เป็นเวลากลางวัน even thoughแม้จะเป็นเวลาป่ายมากแล้ว แสงแดดก็ยังมีอยู่ ทำให้ไม่น่ากลัวนัก ถ้าเป็นเวลาค่ำคืน ชูใจคงbe frightened ผะ-หฺวาผวาวิ่งหนีflee in all directions, stampedeเตลิดเปิดเปิงไปแล้ว มานีไม่กลัวรูปปั้นยักษ์ แต่กลัวกองอิฐและหินจะcollapse: pile of things, brick wallพังทลายลงมา ส่วนเด็กผู้ชายรู้สึกpleased, gratifiedพออกพอใจมาก จึงวิ่งดูตรงนั้นตรงนี้rush about chaotically ชุน-ละ-มุนชุลมุนตลอดเวลา ปิติสังเกตเห็นรอยเท้าม้าtrample, trodเหยียบย่ำอยู่ทั่วไป ก็รู้ว่ามีคนมาแถวเจดีย์แห่งนี้เสมอ ถ้าเจ้าแก่ยังอยู่เขาคงจะได้ขี่มันมาเที่ยวบ่อยๆ

เพชรเห็นฐานเจดีย์ด้านหนึ่งเป็นช่องมีเถาวัลย์คลุมอยู่ จึงใช้ฉมวกflick, to whip ตะ-หวัดตวัดเอาเถาวัลย์ออก ก็มองเห็นเป็นช่องลึกเข้าไป เขาจึงร้องเอะอะบอกให้เพื่อนๆ มาดู ทุกคนมายืนgather as a group, crowd aroundออกันอยู่ที่ปากอุโมงค์ ในนั้นมีแสงสว่างสลัวๆ ดูไม่น่ากลัวอะไร วีระจึงชวนเพื่อนๆ เข้าไป พอพวกเด็กๆ เดินทยอยเข้าไปหมดทุกคน อิฐกองมหึมาที่อยู่ด้านนอกตรงปากอุโมงค์ก็พังทลายลงมาปิดปากช่องทันที ทุกคนตกใจจนovercome by fear: morale, spirit fled and witheredขวัญหนีดีฝ่อ ต่างหันไปพยายามกวาดเศษอิฐออกจากปากอุโมงค์ เพชรใช้ฉมวกpry, leverงัดกองอิฐก็ไม่move, budgeเขยื้อน เมื่อไม่มีหวังจะออกไปได้ ชูใจcry out hystericallyตีโพยตีพายว่า ไม่ควรเข้ามาเลย ปิติsoothe, comfort, reassureปลอบว่าคงจะมีทางออกทางอื่น

“อิฐพังลงมาปิดปากช่องอุโมงค์แล้ว แต่ในนี้ก็ยังมีแสงสว่างพอมองเห็นดู แสดงว่าต้องมีช่องทางอื่นอีก” วีระพูด เขามองเห็นชูใจและมานีมีท่าทางstartled, afraid ตะ-หวาดหวาดกลัว จึงหัวเราะพลางพูดว่า “ชูใจกับมานีอย่าbe spooked, scaredตกอกตกใจไปเลย พวกพี่จะพากลับบ้านได้อย่างปลอดภัยแน่นอน”

เพชรร้องว่า “มดกัด” แล้วbend over, bow downก้มลงลูบเท้าbrush, flick, shake offสลัดเอามดออก วีระก้มลงexamine, considerพิจารณาดูมดที่พื้นอุโมงค์ เขาเห็นมันเดินเป็นแถวเข้าไปด้านใน จึงพูดว่า “เราต้องเดินตามมดนี่ไป เผื่อจะพบทางออกทางอื่น มานะจูงมานีกับชูใจตามมา ปิติกับเพชรเดินตามหลัง คอยprotect, guardคุ้มครองน้องผู้หญิงทั้งสองคนนะ”

พูดจบเขาก็whistleผิวปากเป็นเพลงencourage, give heart toปลุกใจทำให้คนอื่นspirit, morale improvedขวัญดีขึ้นวีระวีระkeep on doingคอยสังเกตขบวนมดเป็นระยะๆ to the extentเท่าที่sufficient, enough toพอจะมองเห็นได้ และเดินนำเพื่อนตามแถวมดไป ทุกคนรู้สึกdoubtful, uncertainฉงนที่เห็นว่าอุโมงค์นั้นค่อยๆ กว้างออกจนเป็นlobby, hall, atriumห้องโถงรูปกลมขนาดใหญ่ มีแสงสว่างpass through, over, underลอดเข้ามาได้มากขึ้น เด็กมองไปรอบๆ เห็นหีบเล็กเก่าๆ หลายใบ rustสนิมจับmatted, encrustedเกรอะกรังวางซ้อนกันอยู่ข้างผนัง มีappliances, implementsข้าวของเครื่องใช้ เช่น เตา หม้อข้าว ถังพลาสติก และอื่นๆ หลายอย่างวางscattered all overเกลื่อนกลาด แสดงว่ามีคนอาศัยอยู่ พวกเด็กๆ ยิ่งรู้สึกscared, shakingอกสั่นขวัญหาย กลัวคนที่อยู่ในอุโมงค์จะคิดว่าพวกเขาเป็นขโมยแล้วอาจcapture themจับตัวกันimprisonขังไว้ วีระรีบเดินตามขบวนมดไปwith speed, quicklyโดยเร็ว no one wanted to do differentlyไม่มีใครสนใจดูอย่างอื่น each headed forต่างมุ่งหน้าหาทางออกไปให้escape, get clear ofพ้นอุโมงค์

มาถึงที่แห่งหนึ่ง ขบวนมดแยกเป็นหลายสายwind, e.g., road, zigzagลดเลี้ยวไปตามcrevice, niche, nookซอกหิน วีระตัดสินใจตามขบวนมดตามไปทางที่สว่างกว่า เขาตัดสินใจถูกเพราะไม่ช้าก็มาถึงปากอุโมงค์อีกด้านหนึ่ง มีกิ่งไม้วางsplice, lay atop one anotherประกบปิดปากช่องไว้ เด็กผู้ชายช่วยกันดึงกิ่งไม้ออก just then, suddenlyทันใดนั้น พวกเด็กๆ ได้ยินเสียงmenace, threatenขู่hissingฟ่อๆ ใกล้ๆ พอหันไปดูก็เห็นking cobraงูจงอางตัวใหญ่ชูคอstretch outแผ่cobra’s hoodแม่เบี้ยสูงเกือบequal to, level withเสมอศีรษะของวีระ ทุกคนตกใจแทบfaint, senseless, lose consciousnessสิ้นสติ ไม่รู้จะทำอย่างไร ต่างยืนนิ่งไม่กล้าmove, shiftขยับเขยื้อน เพชรได้สติก่อนเพื่อน รีบพุ่งฉมวกเสียบทะลุคอของมันaccurately, exactlyอย่างแม่นยำ ฉมวกstuck firmlyติดแน่นอยู่กับคองู พวกเด็กไม่รอช้าพากันวิ่งออกจากอุโมงค์อย่างforgetting everything elseไม่คิดชีวิต เพชรลืมสวิงไว้ที่ปากอุโมงค์for sureนั่นเอง

พอพ้นเขตวัดร้าง ต่างหยุดยืนหอบด้วยความtired, exhaustedเหน็ดเหนื่อย ยังไม่ทันจะพูดอะไร ก็ได้ยินเสียงpopping, slapping soundผัวะเผียะอยู่prefix for direction, positionเบื้องหลัง เด็กๆ ก็ออกวิ่งหนีกันอีก วีระวิ่งตามหลังเพื่อคุ้มกันภัยให้เพื่อนๆ เท่าที่จะทำได้ พวกเขาไม่กล้าlook behindเหลียวหลังor evenหรือแม้แต่จะglance sidewaysชำเลืองดู จนกระทั่งมาถึงบริเวณป่าสงวน เห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงหยุดto restพักเหนื่อย ต่างafraid to do something (again)เข็ดขยาดและตั้งใจว่า จะไม่set foot onเหยียบย่างมาที่วัดร้างแห่งนี้อีกเลย

“เราจะต้องไม่reveal, divulgeแพร่งพรายให้ใครรู้ว่าเรามาที่นี่นะ” วีระreiterate an order to make it clearกำชับเพื่อนๆ ทุกคนก็รับคำ

เพชรขอโทษมานีที่เขาผิดสัญญาว่าจะไม่ฆ่าสัตว์ แต่ก็ต้องฆ่างู และขอโทษเพื่อนทุกคนที่ชวนไปเที่ยวในที่มีอันตราย เพื่อนๆ ไม่มีใครโกรธเพชรกลับขอบใจที่ฆ่างูได้ทำให้ทุกคนปลอดภัย เมื่อพ้นอันตรายมาแล้ว ทุกคนก็smile cheerfullyยิ้มแย้มแจ่มใสต่อกัน พูดคุยถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาอย่างสนุกสนาน พอหายเหนื่อยเด็กๆ ก็พากันกลับบ้าน

- + - + - + - + - + - + - + -